เครื่องประดับเงิน ... ความงามที่ไม่เคยหลับ

เครื่องประดับเงินได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นมานานหลายปีแล้ว แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของโลหะชนิดนี้ พัฒนาการด้านการออกแบบและการสร้างแบรนด์ไม่ได้เพียงแค่เจาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นแค่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากการที่คนมองว่าเป็นเครื่องประดับราคาไม่แพง และมีคุณภาพต่ำมาเป็นสินค้าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่น และเน้นความมีสไตล์เป็นของตัวเอง เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและหรูหรา

จากโลหะพื้นฐานกลายเป็นสินค้าหรูหรา ด้วยการสร้างเสน่ห์ให้กับเครื่องประดับกลุ่มนี้ผ่านการสร้างแบรนด์ รวมทั้งการออกแบบที่แปลกใหม่ และหรูหรา แต่ยังไม่ทิ้งความเรียบง่ายที่คนเราสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส

Pastiche ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับเงินสเตอร์ลิงพบว่า ถ้าวางแบรนด์มาเป็นอย่างดีและมีการออกแบบสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ เครื่องประดับเงินก็จะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมได้ไม่ยากนัก

เพชร...เพื่อนแท้ของสาวๆ

Barlerin จาก SPS กล่าวว่า กิจการต่างๆ กำลังมองหาความสำเร็จและพยายามดึงดูดผู้บริโภคในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอเครื่องประดับเงินสำหรับตลาดระดับบน ซึ่งมักตกแต่งด้วยเพชร เราจึงจะเห็นผลงานการออกแบบของเหล่าดีไซเนอร์สมัยใหม่ในการออกแบบเครื่องประดับเงินในแนวใหม่นี้ด้วยการเพิ่มแซปไฟร์ และเพชร รวมทั้งอัญมณีชนิดต่างๆ เข้าไปในงานเครื่องเงินด้วย ซึ่งเป็นการผสมผสานเครื่องประดับเงินกับเพชรและอัญมณีทำให้เกิดความหรูหรา ความงาม และความย่อมเยากว่าการใช้โลหะมีค่าชนิดอื่นๆ

เงินช่วยให้นักออกแบบใส่ลูกเล่นและความลื่นไหลลงไปในชิ้นงานและเน้นลักษณะของเพชรได้มากยิ่งขึ้น และไม่จำเป็นด้วยว่าเราจะใช้เพชรสีขาวบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว เราสามารถใช้เพชรมีมลทิน เพชรสีขุ่นมาปรับใช้ในตัวเรือนได้ หรือแม้แต่การใช้อัญมณีต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม ทั้งที่เป็นอัญมณีที่เจียระไนแล้ว หรือเป็นอัญมณีที่ยังไม่ได้ผ่านการเจียระไน รวมทั้งอัญมณีที่มีมลทิน ก็สามารถนำมาใช้ได้ในชิ้นงาน และก่อให้เกิดความโดดเด่นที่แตกต่างในชิ้นงานมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี โลหะเงินก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการนำเพชรขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูงมากมาประดับไว้ โดยส่วนใหญ่เราจึงมักเห็นว่าเครื่องประดับเงินส่วนใหญ่จะตกแต่งด้วยเพชรที่มีขนาดเล็กกว่า 2 กะรัต และมีคุณภาพระดับ SI2 ถึง I1 หรือจะมีการใช้เพชรแบบเหลี่ยมเกสรที่ให้ความงามแบบระยิบระยับที่มีขนาดเล็กมาประดับรวมกัน ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 0.005 ถึง 0.03 กะรัตต่อเครื่องประดับแต่ละชิ้น

การเลือกซื้อเครื่องประดับเงินมาใช้นั้น อาจเลือกซื้อด้วยความชอบเพราะรูปแบบที่สวยงาม อย่างไรก็ตามปัญหาของเครื่องประดับเงินก็คือเมื่อใส่ไประยะหนึ่งแล้ว ก็จะเกิดลักษณะดำบ้าง เหลืองบ้าง หรือเป็นคราบรอยนิ้วมือหรือที่เราเรียกว่า “เงินหมอง” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณค่าของเครื่องประดับลดน้อยลง ปัญหาเหล่านี้เกิดจากคุณสมบัติของตัวโลหะเงินทำปฏิกิริยาออกไซค์กับน้ำและอากาศได้ง่ายกล่าวคือเป็นการเกิดสนิมของเงินนั่นเอง ดังนั้นการสวมใส่เครื่องประดับเงินจำจำเป็นที่จะต้องดูลให้เครื่องประดับนั้นมีความสวยงามและน่าสวมใส่อยู่เสมอซึ่งก็มีหลากหลาย ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถนำไปใช้เองได้ในชีวิตประจำวัน

วิธีที่ 1 ใช้แป้งจีน (หาซื้อได้ทั่วไป) ใช้ขัดได้เลยโดยไม่ต้องใช้น้ำก็ได้ผลดี

วิธีที่ 2 คือวิธีที่ง่ายที่สุด โดยใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดเครื่องเงินโดยเฉพาะ ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายชนิด ทั้งที่เป็นแบบผ้าเช็ดทำความสะอาดสำเร็จรูป หรือแบบครีมกระปุก สำหรับเช็ดทำความสะอาดเครื่องประดับเงิน ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องประดับทั่วไป

วิธีที่ 3 การต้ม อาจจะใช้น้ำส้มสายชู หรือน้ำมะขามเปียกผสมน้ำ 1 ต่อ 2 ส่วน ให้ต้มพอเดือดแล้วนำเครื่องเงินจุ่มลงไปสักคครู่ก็จะได้เครื่องเงินที่ขาวแวววาวเช่นเดิม (แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับการทำความสะอาดเครื่องประดับเงินที่ประดับด้วยเพชรหรืออัญมณีที่มีราคาสูง)

วิธีที่ 4 การใช้โซดาซักผ้า 2 ช้อนชา ผสมน้ำ และต้มให้สะอาด หลังจากนั้นเข็ดให้แห้งและขัดด้วยผงขัดเงินอีกครั้งก่อนเช็ดออกด้วยผ้านุ่มๆ

วิธีที่ 5 แช่เครื่องประดับเงินในน้ำต้มมันฝรั่ง 1 ชั่วโมง แล้วนำมาล้างให้สะอาด และเช็ดด้วยผ้านุ่มๆ ให้แห้ง ก็จะได้เครื่องเงินที่ดูเงางามเหมือนใหม่

วิธีที่ 6 แช่เครื่องเงินในนมเปรี้ยวประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำธรรมดา จากนั้นก็เช็ดด้วยผ้านุ่มๆ ให้แห้ง

วิธีที่ 7 ใช้น้ำมะขามเปียกหรือน้ำมะนามผสมขี้เถ้าขัด และล้างด้วยน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น และล้างด้วยน้ำสะอาดตามอีกครั้งหนึ่ง และเช็ดให้แห้ง

วิธีที่ 8 ใช้ยายสีฟันไปตากแดดให้แห้ง นำไปบดให้ละเอียด ผสมน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน และใช้สำลีชุบส่วนผสมดังกล่าวนำไปขัดให้ทั่ว