ฟังจากปากแฟชั่นไดเรกเตอร์ถึงเบื้องหลังการจับคู่จิวเวลรี่ JASMIN กับชิ้นงานประมูลในโว้กกาล่าปีล่าสุด

แม้ว่าจะจบไปแล้วสำหรับงานประจำปีอันยิ่งใหญ่ของนิตยสารโว้กประเทศไทยอย่างงาน Vogue Gala ปี 2019 หากความปลื้มปิติยินดีและสนุกสนานยังคงกรุ่นกลิ่นไม่จางหาย และแน่นอนว่าทางโว้กเราเองก็เช่นกัน เพราะแขกรับเชิญทุกคนที่มาเข้าร่วมงานไม่ว่าจะเป็นเซเลบริตี้หรือแม้แต่ดารานักแสดงเองก็จัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผมในแบบฉบับไทยโมเดิร์นได้อย่างไม่มีที่ติ สิ่งที่สวยงามและสมบูรณ์แบบไม่แพ้กันเลยคือส่วนของชิ้นงานร่วมประมูลที่นอกจากจะทำจากผ้าไหมไทยในดีไซน์ที่ร่วมสมัยแล้ว การจับคู่กับจิวเวลรี่ระดับมาสเตอร์พีซของแบรนด์ JASMIN เองก็ทำให้เราละสายตาไม่ได้เลยเช่นเดียวกัน ครั้งนี้เราจึงไม่พลาดขอจับแฟชั่นไดเรกเตอร์ของโว้กอย่างคุณปุ๊ก-จงกล พลาฤทธิ์ มานั่งพูดคุยถึงการเลือกเครื่องประดับและวิธีการมิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับไอเท็มต่างๆ กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ

โดยคุณปุ๊กบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์สายเลือดไทยอย่าง JASMIN กับเราว่า “แบรนด์ Jasmin มีความหลากหลายมากในแง่ของดีไซน์และยังเหมาะกับผู้หญิงหลากหลายอายุ หลายหลายบุคลิกภาพ ทั้งยังสามารถใช้ได้ตั้งแต่งานกลางคืนไปจนถึงงานกลางวันเหมือนที่บอกว่า “Everyday Shining” ตามคอนเซปต์ของเขา ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยแบรนด์ของ JASMIN เองมันทำให้เราได้เห็นแล้วว่าจิวเวลรี่มันก็เป็นเหมือนเพื่อนของผู้หญิงที่จะอยู่ด้วยกันในทุกๆ จังหวะของเวลา และยังเป็นเพื่อนที่เข้าได้กับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย”

คุณปุ๊กยังกล่าวต่อถึงความแตกต่างและความโดดเด่นของแต่ละชิ้นที่ได้เลือกมา พร้อมบอกเล่าถึงวิธีการมิกซ์แอนด์แมตช์ตัวจิวเวลรี่กับชิ้นงานประมูลในครั้งนี้ โดยเริ่มต้นที่ลุคแรกอย่างกระเป๋าคลัตช์จาก Roger Vivier จับคู่กับจิวเวลรี่ของ JASMIN คอลเล็กชั่น Fundamental “มันไม่จำเป็นต้องพุ่งตรงไปที่เสื้อผ้าเสมอไปในการทำให้ลุคดูโดดเด่น อย่างบางทีเราอาจจะมีกระเป๋าที่เป็นแอ็กเซสเซอรี่ชิ้นเด็ดโดยเสื้อผ้าเราอาจจะเรียบๆ ก็ได้ อย่างลุคนี้ก็โดดเด่นที่กระเป๋าผ้าไหมของ Roger vivier ที่เป็นออกสีฟ้าเขียว ซึ่งมันน่าจะไปได้ดีกับเครื่องประดับสีมรกตโดยเลือกรูปทรงที่ไปในทางเดียวกัน อย่างกระเป๋าใบนี้เป็นทรงเหลี่ยมเราเลยเลือกอัญมณีทรงเหลี่ยมมาในโทนสีเดียวกันครบเซ็ตทั้งแหวน ตุ้มหู ซึ่งเราอาจจะใส่แค่สองชิ้นนี้ก็ได้ แต่ถ้าเป็นงานเย็นเราก็อาจจะเพิ่มสร้อยคอมรกตเข้าไป ซึ่งมันเป็นการรวมกันที่น่าสนใจเพราะเราสามารถให้ลุคเราเป็นสีเรียบๆ แล้วใช้จิวเวลรี่กับกระเป๋าเป็นตัวดึงความสนใจให้กับลุค”

ตามมาด้วยลุคที่ 2 กับชุดเดรสสั้นของ Diane von Furstenberg กับจิวเวลรี่คอลเล็กชั่น Fundamental “ชุดของ Dian von เรามองว่ามันกึ่งๆ เดย์แวร์ไปจนถึงค็อกเทลก็ได้ ซึ่งค่อนข้างจะเป็นแบบเฟมินีน เลยอยากให้จิวเวลรี่ที่จะมาเข้าคู่กันมีความอ่อนช้อย จึงเลือกตุ้มหูกับสร้อยที่มีหยักมีโค้งออกแนวใบไม้ ดอกไม้ เพื่อเสริมให้ลุคนี้ได้ดูเป็นเฟมินีนมากขึ้น เราจะสร้างลุคเป็นเดย์แวร์ก็ได้โดยใส่แค่แหวนกับตุ้มหู แต่ถ้าจะเป็นงานกลางคืนก็เติมสร้อยเข้าไป”

ลุคที่ 3 กับโค้ตผ้าไหม Max Mara และจิวเวลรี่คอลเล็กชั่น The Modest Facet “ชอบจิวเวลรี่คอลเล็กชั่นนี้เป็นพิเศษเลย เพราะมันใส่ได้ทุกวันและมันดูสนุกด้วย ส่วนโค้ตของ Max Mara ตัวนี้เราเลือกเพราะอยากให้ผู้หญิงหันมาใส่เสื้อโค้ตไปทำงาน หรือใส่เดินทางได้ ฉะนั้นจิวเวลรี่ควรจะเป็นดีไซน์ที่โมเดิร์นและเรียบหน่อย แต่ความสนุกอยู่ตรงที่สามารถใส่หลายๆ วงเป็นเลเยอร์หรือที่เรียกว่า Stack ก็ได้เราเลยเลือกเป็นทั้งแบบทองคำ ทองคำขาวผสมกันไป รวมถึงเลือกตุ้มหูที่เข้าเซ็ตกัน มันเลยจะช่วยขับให้ลุคของโค้ตผ้าไหมตัวนี้ดูโมเดิร์นขึ้นและไม่เป็นทางการจนเกินไป”

ต่อกันด้วยลุคที่ 4 กับชุดจาก Etro และจิวเวลรี่คอลเล็กชั่น The Beginning “เราชอบชุดเดรสของ Etro และมีความรู้สึกว่ามันลงตัวในตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าชุดนี้ขาดอะไร เราก็ตอบเลยว่ามันขาดตุ้มหู แต่เราอยากได้ขนาดที่มันไม่ใหญ่มาก เพราะว่าอยากให้ชุดและเครื่องประดับมันชมเชยซึ่งกันและกัน เพราะชุดค่อนข้างโดดเด่นอยู่แล้ว ตุ้มหูจึงควรมีดีไซน์ที่สวย น่าสนใจและไม่ใหญ่มาก ซึ่งมันสามารถใส่ได้เช้าจรดเย็นเลยเลือกเป็นตุ้มหูและแหวนที่เข้าเซ็ตกันคู่นี้”

ลุคสุดท้ายกับกระเป๋าคลัตช์ Giuseppe Zanotti และจิวเวลรี่คอลเล็กชั่น The Beginning “เริ่มต้นเลยคือชอบแหวนไพลินวงนี้มาก มันเป็นมาสเตอร์พีซของแบรนด์ได้เลย เพราะมีน้ำที่สวยมากแล้วก็เป็นสีธรรมชาติที่สวยมากเช่นกัน เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้แหวนวงนี้มันโดดเด่นขึ้นมาได้ คิดว่าน่าจะเหมาะกับเสื้อผ้าค่อนข้างเรียบ แต่ในขณะเดียวกันถ้าเราเกิดมีกระเป๋าที่จะช่วยดึงความสนใจไปที่แหวนและสร้อยข้อมือได้มันก็จะยิ่งส่งให้ตัวจิวเวลรี่ได้ดูสวยขึ้นไปใหญ่ ก็เลยเลือกเป็นกระเป๋าคลัตช์ใบนี้ซึ่งสีเองก็มีความคล้ายและไปในทิศทางเดียวกัน มีความเป็นม่วงแดงเลยสามารถกอปรไปกับกระเป๋าได้"

หลังจากที่คุณปุ๊กเล่าถึงการมิกซ์แอนด์แมตช์และความโดดเด่นของจิวเวลรี่ไปแล้ว เราจึงรบกวนคำถามสุดท้ายด้วยการให้คุณปุ๊กช่วยแนะนำการแมตช์จิวเวลรี่ให้เข้ากับเสื้อผ้าในแบบชีวิตประจำวันว่ามีความเห็นหรือสามารถทำได้อย่างไรบ้าง โดยเธอตอบทิ้งท้ายคำถามคาใจทั้งหมดของเราว่า “จริงๆ มันแล้วแต่คาแรกเตอร์ของแต่ละคนเลย บางคนอาจจะคิดว่ามรกตหรือไพลินเม็ดใหญ่แบบนี้ต้องเหมาะกับงานกลางคืนสำคัญๆ เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วด้วยดีไซน์ของ JASMIN มันสามารถไปด้วยกันได้อยู่แล้ว สามารถใส่ไปทำงานก็ได้แค่เสื้อเชิ้ตหนึ่งตัวกับกางเกงแล้วก็ตุ้มหูมรกต มันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการนำ High Jewelry มาผสมเข้ากับ Everyday Look ได้อย่างน่าสนใจ ในความเป็นจริงมันสามารถเล่นได้หมด สมัยนี้ไม่ได้ตายตัวแล้วว่าเพชรต้องใส่กลางคืนหรือเฉพาะงานกาล่าเท่านั้น เราสามารถแมตช์จิวเวลรี่ชิ้นใหญ่หน่อยให้เข้ากับเดย์แวร์ก็ได้ทำให้มันสนุกขึ้น เพราะมันไม่ได้มีกฏเกณฑ์ หรืออาจจะเลือกเสื้อยืดกางเกงยีนส์แล้วตุ้มหูเพชรมันก็สร้างลุคสนุกๆ ไปอีกแบบหนึ่งได้เหมือนกัน”