Easy Money รวม 5 เคล็ดลับรักษาเครื่องประดับและของใช้อย่างถูกต้อง

ถึงแม้ของมีค่าและเครื่องประดับหลาย ๆ ประเภท จะผลิตมาจากวัสดุที่ทนทาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ของมีคุณค่าเหล่านี้ก็มีความบอบบางและต้องการการดูแลรักษา ดังนั้น จะให้นำของมีค่าหรือเครื่องประดับราคาแพงมาเก็บใส่กล่องธรรมดา หรือใส่ตะกร้าและวางเอาไว้เฉย ๆ อาจไม่เพียงพอ เพราะหากคุณต้องการที่จะรักษาสิ่งของเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีและสวยเหมือนใหม่ก็ต้องมีวิธีที่เหมาะสม ยิ่งในช่วงสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ที่ทุกคนต้องอยู่บ้านนาน ๆ แน่นอนว่าเครื่องประดับและของมีค่าทั้งหลายยิ่งไม่ได้ถูกนำออกมาใช้งาน และต้องเก็บไว้ในตู้จนอาจทำให้หมองเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

หากใครที่กำลังเป็นเจ้าของเครื่องประดับ หรือของมีค่าที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย ๆ และกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้สิ่งของเหล่านี้กลับมาดูแวววาวและสวยเหมือนใหม่อีกครั้ง วันนี้ Easy Money จะขออาสาพาไปรู้จักกับเคล็ดลับการเก็บรักษาของมีค่า 5 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูได้เลย!

เมื่อพูดถึงการเก็บรักษาทองคำให้ปลอดภัย หลายคนอาจนึกถึงวิธีการเก็บรักษาอย่างการนำไปฝากที่ร้านทอง หรือฝากธนาคาร เพราะเชื่อว่าสถานที่เหล่านี้สามารถป้องกันการโจรกรรมได้ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและรักษาความสะอาดให้ ไม่เพียงแต่ธนาคารหรือร้านทอง แต่คนจำนวนไม่น้อยต่างเลือกที่จะเก็บรักษาทองคำประเภทต่าง ๆ ไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่าการเก็บไว้ในบ้านนั้นปลอดภัยที่สุด แถมหากเกิดเหตุจำเป็นขึ้นมาก็สามารถนำทองเหล่านี้ออกไปซื้อขายได้ทันที แต่อย่างไรก็ดี หากใครเลือกที่จะเก็บทองคำไว้ในบ้าน นอกจากจะต้องซื้อเซฟที่มีระบบนิรภัยแน่นหนาเพื่อการจัดเก็บแล้ว เรื่องของสถานที่ก็ต้องมิดชิดที่สุด นอกจากนี้ Easy Money ยังขอแนะนำให้เจ้าของทองคำทุกคนปฏิบัติตามถึงเรื่องเหล่านี้

• None อย่านำทองคำมาเก็บรวมกันโดยที่ยังไม่ได้ป้องกัน เพราะหากวางทองทับกันไปเป็นชั้น ๆ ก็อาจทำให้ทองเกิดรอบขีดข่วน และส่งผลต่อการซื้อขายในอนาคตได้

• None หากทองคำเริ่มหมองคล้ำ หรือสกปรกเมื่อไหร่ เจ้าของทองคำก็สามารถใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจาน จากนั้นให้นำแปรงสีฟันขนนุ่มพิเศษจุ่ม และนำไปขัดทองคำได้

• None หากใครที่ใส่ทองคำติดตัวเป็นประจำ Easy Money ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าให้เจ้าของทองคำถอดเครื่องประดับของตัวเองออกก่อนที่จะลงสระว่ายน้ำ ออนเซน อ่างน้ำร้อน หรือแช่ตัวในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เนื่องจากความร้อนและคลอรีนอาจทำลายผิวของทอง และทำให้หนามเตยคลายออกได้

ของมีค่าประเภทที่ 2 : เพชร และเครื่องประดับจากเพชร

เพชร พลอย และเครื่องประดับจากเพชรทุกชนิดถือเป็นอีกหนึ่ง #ของมันต้องมี สำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะแวววาวและใสเป็นเอกลักษณ์แล้ว เพชรยังสื่อความหมายถึงความรักแท้ที่ยืนยาวและถาวร และยังถือเป็นเพื่อนแท้ของผู้หญิงหลาย ๆ คนเหมือนกับที่แบรนด์เพชรอย่าง DeBeers เคยกล่าวว่า Diamonds are a girl's best friend.

แต่ถึงแม้ว่าเพชรจะเป็นของมีค่าที่มีความแข็งแรงมากที่สุดในโลก แต่พื้นผิวของเพชรนั้นกลับเปราะบางและเป็นรอยได้มากกว่าที่คิด ดังนั้น เจ้าของเพชรและเครื่องประดับเพชรทุกคนควรเลือกรักษาและทำความสะอาดเพชร ดังนี้

• None ทำความสะอาดเพชรโดยการนำเพชรไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจานเอาไว้ประมาณ 20 - 30 นาที จากนั้นค่อย ๆ ใช้แปรงขนนุ่มพิเศษขัดคราบสกปรกออก

• None เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำให้แห้ง หรือสามารถเป่าลมอ่อน ๆ เพื่อไล่ความชื้นได้

• None มองหากล่องเก็บเครื่องเพชรแยกชุดกัน โดยควรเลือกเก็บเครื่องเพชร 1 ชิ้น ต่อกล่องเก็บเครื่องประดับ 1 กล่องเท่านั้นเพื่อป้องกันเพชรขูดกันแล้วทำให้เพชรเป็นรอย หรืออาจเสียหายจนขอบมุมเกิดบิ่นได้ เช่น หากชุดเครื่องเพชรมีทั้งสร้อยคอ ต่างหู และแหวนเพชรก็ควรแยกเก็บสร้อยคอ 1 กล่อง แหวนเพชรอีก 1 กล่อง และต่างหูที่มีทั้ง 2 ข้างก็ให้ใส่ถุงซิปล็อกเก็บแยกกันเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น

• None ควรเก็บกล่องเก็บเครื่องประดับเพชรไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำเพื่อป้องกันเพชรเปลี่ยนสี หรือตัวเรือนที่หลุดร่อนจากการโดนความร้อนอีกด้วย

เมื่อพูดถึงของสะสมที่สามารถทำเงินได้สูงสุดในขณะนี้ แน่นอนว่า ‘กระเป๋าแบรนด์เนม’ ต้องเป็นอีกหนึ่ง #ของมันต้องมี ที่ติดชาร์ตของสะสมที่ได้รับผลตอบแทนในวันข้างหน้าสูงไม่แพ้เครื่องประดับประเภทอื่น ๆ ซึ่งยิ่งหากเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นฮิตหายาก หรือรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดด้วยแล้ว บอกเลยว่าราคารีเซลหรือราคาขายต่อนั้นอาจให้ผลตอบแทนที่สูงเป็นเท่าทวีคูณ

แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะซื้อกระเป๋ามาใช้เอง หรือซื้อแบรนด์เนมมาลงทุนเพื่อขายต่อ เจ้าของกระเป๋าทุกคนก็ควรรู้วิธีเก็บกระเป๋าที่ถูกต้องเพื่อรักษาหนัง และคุณภาพของกระเป๋าให้สวยเทียบเท่ากับวันแรกที่ได้เห็น โดยการทำความสะอาดและดูแลกระเป๋าที่ถูกต้องนั้น Easy Money ขอแนะนำให้ทุกคนลองทำตามนี้

• None หาชั้นหรือพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่เย็นหรือร้อนจนเกิดไป เพราะอาจทำให้กระเป๋าเปลี่ยนทรง หรืออาจทำให้หนังกระเป๋าเสื่อมสภาพและมีตำหนิได้

• None ยัดกระดาษหรือพลาสติกให้เต็มกระเป๋าเพื่อรักษารูปทรง จากนั้นให้นำกระเป๋าใส่ถุงผ้าที่ได้รับมาตอนซื้อกระเป๋า และค่อยนำกระเป๋าไปวางบนชั้น โดยเจ้าของกระเป๋าทุกคนควรวางกระเป๋าเว้นระยะห่างกัน เพราะหากวางกระเป๋าติด ๆ กันเมื่อไหร่ ไม่แน่ว่าสีหนังของกระเป๋าอาจจะตกใส่กันจนทำให้กระเป๋าใบโปรดไม่สวยเหมือนเดิม หรืออาจขายต่อแล้วราคาตกได้

• None หากกระเป๋าเป็นคราบหรือรอยขึ้นมา ให้ลองพิจารณาวิธีทำความสะอาดจากประเภทของหนังกระเป๋าเป็นหลัก เช่น หากกระเป๋าเป็นหนังแก้วก็สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ปิโตรเลียมเจล หรือหากเป็นกระเป๋าหนังกลับก็สามารถใช้แปรงขนอ่อนทำความสะอาดได้ เป็นต้น

• None ถ้าหากใครไม่แน่ใจว่ากระเป๋าของตัวเองเป็นหนังประเภทไหนก็สามารถใช้บริการสปากระเป๋าเพื่อรักษากระเป๋าให้สวยเหมือนใหม่ได้เช่นกัน

หากกระเป๋าแบรนด์เนมเป็น #ของมันต้องมี สำหรับสาว ๆ ‘นาฬิกาหรู’ ก็จัดเป็น #ของมันต้องมี สำหรับคุณผู้ชายเช่นกัน แต่อย่างไรตาม ถึงนาฬิกาจะมีราคาซื้อขายที่สูงขึ้นแบบปีต่อปีเหมือนกระเป๋าแล้ว แต่นาฬิกานั้นจะเป็นของประดับที่แตกต่างจากกระเป๋าตรงที่ นาฬิกานั้นอยู่กับข้อมือที่เต็มไปด้วยเหงื่อและคราบสกปรกที่ติดตัวร่างกายได้ ซึ่งสามารถทำความสะอาดและดูแลรักษาให้เหมือนใหม่ได้

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ต่อให้ซื้อนาฬิกาหรูมาเพื่อเป็นเครื่องประดับที่ใช้ทุกวันมากแค่ไหน หากเจ้าของนาฬิกาไม่ทำความสะอาดเลย นอกจากจะเสี่ยงขายไม่ได้ราคาในอนาคตแล้ว นาฬิกาก็อาจพุพังจากคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกได้ ซึ่งหากใครต้องการจะดูแลรักษานาฬิกาเรือนโปรดให้สวยอยู่คู่ข้อมือเราไปได้นาน ๆ ล่ะก็ Easy Money ขอแชร์เคล็ดลับการดูแลนาฬิกา ดังนี้

1. ดูแลและทำความสะอาดนาฬิกาให้ตรงกับประเภทของตัวเรือนและสาย

- หากเป็นนาฬิกาสายหนัง คุณควรนำสายหนังออกมาโดนอากาศอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา อีกทั้งยังควรนวดสายเป็นประจำเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและเพื่อยืดอายุของสายหนัง อีกทั้งยังสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าการชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดทำความสะอาดได้

- หากเป็นตัวเรือนและสายโลหะ คุณควรนำสายและตัวเรือนมาทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาทำความสะอาดนาฬิกา จากนั้นก็ใช้แปรงขนนุ่มพิเศษขัดเบา ๆ เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรก โดยควรขัดไปตามทิศทางของโลหะ จากนั้นก็เช็ดให้แห้งสนิท และใช้ไดร์เป่าผมเป่าไล่ความชื้นโดยใช้อุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก

- หากเป็นสายพลาสติกหรือสายยาง สามารถนำทำความสะอาดโดยใช้น้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน แชมพูอ่อน ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดนาฬิกา จากนั้นใช้แปรงขัดได้ แต่ห้ามเป่าลมร้อนเป็นอันขาด เพราะจะทำให้นาฬิกาเสียทรง และสายเสียหายได

2. เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าของนาฬิกาทุกคนควรจัดเก็บนาฬิกาในกล่องนาฬิกาทุกครั้งเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน

3.หาสถานที่จัดเก็บนาฬิกาที่มีความชื้นต่ำ และมีอุณหภูมิที่ต่ำเช่นกัน เพราะหากเก็บไว้ในที่อุณหภูมิสูงก็อาจทำให้สายเสื่อมสภาพ และหากยิ่งเป็นสายยางหรือสายพลาสติกก็อาจทำให้เกิดคราบเหนียวได้

ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีนั้นเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ลองคิดดูง่าย ๆ หากมองไปรอบ ๆ ตอนนี้ แน่นอนว่ารอบ ๆ ตัวเราต้องมีโทรศัพท์ที่กำลังอ่านบทความนี้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงาน รวมไปถึงบรรดา Gadget ที่คอยอำนวยความสะดวกในการใช้เทคโนโลยีอย่างหูฟัง คีย์บอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ไฮเทคอื่น ๆ

แต่ถึงจะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากเพียงได้ แต่ Gadget และอุปกรณ์ IT ต่าง ๆ นี้ถือเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี โดยมีผลวิจัยจากหลาย ๆ สถาบันยืนยันออกมาแล้วว่า หน้าจอโทรศัพท์ หูฟัง และคีย์บอร์ดที่เราใช้อยู่ทุกวันนั้นสกปรกกว่าชักโครกในห้องน้ำอีก ที่สำคัญ อุปกรณ์บางชนิดยังมาพร้อมกับชิ้นส่วนที่เปราะบางจนทำให้ทำความสะอาดได้ยาก และต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการแกะแต่ละชิ้นส่วน

หากใครเป็นสาย IT ที่อยู่บ้านทั้งวัน แต่ไม่รู้จะทำความสะอาดอุปกรณ์ Gadget และอุปกรณ์ IT อย่างไรให้สามารถใช้งานได้อย่างทนทาน และดีต่อสุขภาพของเราในระยะยาว Easy Money ขอแนะนำให้ทุกคนลองทำความสะอาดด้วยวิธีต่อไปนี้

1. ใช้คอตตอนบัด และแปรงสีฟันในการทำความสะอาดซอกมุมเล็กต่าง ๆ เช่น คีย์บอร์ด หรือ พัดลม CPU ของคอมพิวเตอร์ หรืออาจใช้เข็มในการทำความสะอาดรูหูฟัง รวมถึงซอกเล็ก ๆ ตามโทรศัพท์ แต่ถ้าหากอุปกรณ์ชิ้นไหนมีความบอบบางเป็นพิเศษก็สามารถใช้ที่เป่าลมเพื่อไล่ฝุ่น จากนั้นค่อยดูฝุ่นออกมาเบา ๆ ได้

2. เมื่อทำความสะอาดช่องเล็ก ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ทำความสะอาดฝุ่นให้เรียบร้อย เพราะผ้าไมโครไฟเบอร์นั้นจะสามารถดักจับฝุ่นได้มากกว่าผ้าปกติ อีกทั้งยังไม่ทิ้งคราบ และสามารถเช็ดรอยนิ้วมือโดยไม่ทิ้งคราบได้อีกด้วย

3. เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากกำจัดคราบฝุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมลงน้ำยาฆ่าเชื้อสักเล็กน้อยเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่ตามอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย

4. เมื่อเช็ดทำความสะอาดทุกอย่างจนหมดจดแล้ว เจ้าของอุปกรณ์ทุกคนก็ควรหาสถานที่จัดเก็บอุปกรณ์ที่ไม่มีความชื้น และควรเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท เพราะอย่าลืมว่าอุปกรณ์ IT และ Gadget ส่วนใหญ่ใช้พลังงานและทำให้เกิดความร้อนได้ และยิ่งหากใช้ในที่ที่เต็มไปด้วยความร้อนและความชื้นก็อาจทำให้อุปกรณ์นั้น ๆ เสื่อมสภาพและชำรุดได้นั่นเอง

ง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ทุกคนก็สามารถเก็บรักษาของรักของหวง รวมถึง #ของมันต้องมี ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สวยเหมือนใหม่ และสามารถใช้งานได้ทนทานจนสามารถขายต่อได้ในราคาที่ต้องการได้แล้ว

แต่หากใครกังวลเรื่องความปลอดภัย หรือไม่แน่ใจว่าจะสามารถเก็บรักษาของมีค่าที่บ้านของตัวเองได้อย่างถูกต้องหรือไม่ สามารถเข้ามาใช้บริการเก็บรักษาทรัพย์กับ Easy Money ได้ทุกสาขาตลอดเวลาทำการ โดยทุกการเก็บรักษาของมีค่าทุกชิ้นนั้นได้มาตรฐาน ISO พร้อมยังให้คำแนะนำและปรึกษาการเก็บของมีค่าที่ถูกต้องได้ มั่นใจ! ฝากของมีค่ากับ Easy Money สภาพวันฝากเป็นอย่างไร วันมารับกลับก็ได้กลับไปสภาพเดิม หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อเข้าใช้บริการกับ Easy Money ทุกสาขาใกล้บ้านได้ทันที เช็กสาขาใกล้บ้านคุณได้ที่นี่